วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560

タスク1(2):魅力的な自己紹介

ในสัปดาห์ก่อนที่ได้เรียนการแนะนำตัวและกลับมาฟังเสียงอัดเพื่อพิจารณาตนเองว่าดีหรือแย่อย่างไร เราก็ได้เขียน 自己紹介 ที่คิดว่ามัน 魅力的 มากกว่าที่ได้พูดในห้องเรียน


เราเน้นไปที่การแสดงตัวตนให้มากขึ้น บอกเรื่องราวเกี่ยวกับตนเองให้มากขึ้น อย่างเช่น 専門領域 เราก็ใส่เหตุผลเข้าไปว่าทำไมถึงสนใจเรื่องนั้น ๆ และ ストレス解消 ก็บอกมากขึ้นว่าเราชอบทำอะไรและทำมันอย่างไร และเขียนได้ออกมาดังนี้


皆さん、こんにちは。初めまして。サンスィニーと申します。ニックネームはネットです。よかったらネットと呼んでください。チュラーロンコーン大学文学部日本語専攻です。
専門領域はタイと日本の喫煙の違いについてです。タイのタバコの政策とメデイアにある喫煙の規制は日本より厳しいのに、喫煙率は日本と同じぐらいということはどうしてだろうと思って研究しました。
次に、私のストレス解消に行うことはドラマ鑑賞と映画鑑賞です。ドラマは日本ドラマが好きで映画はアメリカ映画が好きです。また、アイドルを追いかけることも楽しんでいます。しかし、長い間に夢中になったアイドルグループはもう解散してしまったので結構冷めました。もしよかったら皆さんのお好きなアイドルを紹介しください。どうぞ宜しくお願いします。


และในสัปดาห์ต่อมาก็มีการเรียนเกี่ยวกับ 魅力的な自己紹介 อีกครั้งทำให้เราได้มุมมองใหม่ ๆ มากขึ้น ดังต่อไปนี้


1. ชื่อต่างชาติอย่างเราโดยเฉพาะคนไทยจะออกเสียงยากและจดจำยากสำหรับคนญี่ปุ่น (ในทางกลับกัน เราก็ว่าชื่อคนญี่ปุ่นฟังยาก เวลาเขาแนะนำตัวด้วยความเร็วปกติ เราจะฟังไม่ทันเลย) ดังนั้น เวลาแนะนำชื่อตนเอง ควรพูดแบบ ช้า ๆ ชัด ๆ ย้ำหลาย ๆ ครั้ง และใส่เทคนิคอื่น ๆ ช่วยให้คนอื่นจดจำชื่อเราได้ดีขึ้น เช่น คนที่ชื่อยิ้ม แนะนำตัวว่า イムと申します。インはスマイルという意味です。มีการพูดย้ำชื่อถึง 2 ครั้ง


อย่างเราชื่อเล่นว่า แน็ต แต่คนญี่ปุ่นออกเสียงสระแอไม่ได้ เราเลยใช้คำว่า ネット แทนคำว่าแน็ต ปกติเวลาแนะนำตัวกับคนญี่ปุ่นแล้วเขาทำหน้างงเราก็จะบอกว่า インターネットのネットです。แล้วเขาก็จำกันได้ทุกคนเลย ทุกวันนี้เลยใช้ インターネットのネット มาโดยตลอด5555


ส่วนชื่อจริงเราถอดเสียงได้ว่า サンスィニー เคยคุยเรื่อง 印鑑 กับคนญี่ปุ่น เราเคยคิดว่าเวลาทำ 印鑑 จะใช้ตัวอักษรคันจิได้ 2 ตัวเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วใช้เป็นคาตาคานะก็ได้ ใช้อักษรคันจิหลายตัวก็ได้ แล้วเขาก็บอกให้เราไปทำชื่อเราเป็น 三四二 สิ ตอนนั้นเลยระลึกได้ว่า ชื่อจริงเรามันคือเลข 342 ในภาษาญี่ปุ่นนี่หว่า (พอถูกเรียกว่า サンスィニーさん ก็ยังได้ 3423 ไปอีก) จากนั้นมาก็แนะนำตัวเองว่า 342 ซังนาก๊า55555 (ได้โปรดเรียงลำดับตัวเลขให้ถูก)


ถ้าให้ตัวเองแนะนำตัวก็จะได้เป็น サンスィニーと申します。342でサンスィニーです。サンスィニーはデリケートな美人という意味です。ニックネームはネットです。インターネットのネットなんです。どうぞよろしくお願いします。เป็นต้น


2. ควรพูดถึงสิ่งที่เป็นตัวตนจริง ๆ ของเราสักอย่างหนึ่ง อยากให้คนอื่นมองเราแบบไหนก็พูดถึงสิ่งนั้นบ่อย ๆ แล้วยิ่งถ้ามันเป็นตัวตนของเราจริง ๆ เราก็ต้องพูดมันออกมาบ่อย ๆ โดยธรรมชาติอยู่แล้ว เขาคนก็จะจำภาพลักษณ์เราได้จากเรื่องนั้น ๆ


อย่างเราที่เคยทำวิจัยเกี่ยวบุหรี่ เพราะมีเหตุผลเบื้องหลังก็คือ ชอบดูละครญี่ปุ่น แล้วสังเกตเห็นว่า ในละครญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องเซ็นเซอร์บุหรี่เหมือนอย่างละครไทยเลยเกิดความสงสัยจึงเลือกที่จะทำวิจัยเรื่องนี้ และเราก็มี 趣味 คือการนอนดูทีวีญี่ปุ่น ถ้าเราแนะนำตัวไปตามนี้ก็จะได้มีภาพลักษณ์เป็นเด็กสาววัน ๆ เอาแต่นอนดูทีวีไปเลย แต่นั่นก็คือตัวตนเราจริง ๆ นั่นแหละ555555


สรุปก็คือ นอกจากสติที่เราคาดหวังให้ตัวเองมีตลอดเวลาที่ต้องพูดต่อหน้าคนอื่นแล้ว เรายังต้องมีเทคนิคในการทำให้เขาจำชื่อเราได้ และถ้าอยากให้เขาจดจำเราในภาพลักษณ์แบบไหนก็เน้นพูดถึงสิ่งนั้น ๆ บ่อย ๆ นั่นเอง


นอกจากนี้ เราเคยอ่านเจอจากไหนจำไม่ได้แล้วว่า เวลาที่เพิ่งทำความรู้จักกับใคร แล้วอยากจำชื่อเขาให้ได้แม่น ๆ ก็ให้ใส่ชื่อเขาในบทสนทนาอย่างน้อย 3 ครั้ง คือต้องเรียกชื่อเขาประมาณ 3 ครั้ง ต่อไปเวลาเจอคน ๆ นั้นจะได้นึกชื่อเขาออกทันทีเลย ไม่เสียมารยาทด้วย


คิดว่าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์เพราะต่อจากนี้ถ้าเรียนจบแล้วก็ต้องไปทำงานและต้องทำความรู้จักกับคนอีกมากมาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น