วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2560

タイで撮影した日本ドラマ

คราวนี้เราจะมาขอแนะนำเรื่องที่เราสนใจเองบ้าง


ช่วงนี้ดูละครญี่ปุ่นอยู่เรื่องนึงคือ 嘘の戦争 ที่ฉายทางฟูจิทีวีทุกวันอังคารของซีซั่นนี้และจบไปแล้ว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักต้มตุ่นคนหนึ่งชื่อ 浩一 ที่กลับมาแก้แค้นให้ครอบครัวตัวเองที่ถูกฆ่ายกครัวตอนที่ตัวเองอายุ 10 ขวบ 

ละครเรื่องนี้มีความพิเศษตรงที่ มีการมาถ่ายทำเมืองไทยด้วย กริ๊ดดดดดดดดรัวมือ

ภาพสวย ของไทยจากละครเรื่องนี้

ตามท้องเรื่อง พระเอกมาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นนักต้มตุ๋นคนญี่ปุ่นด้วยกัน ก่อนจะบังเอิญเจอฆาตกรที่ฆ่าครอบครัวตัวเองที่มาไทยเลยตัดสินใจกลับไปแก้แค้นที่ญี่ปุ่น และฉากในไทยเลยจบตั้งแต่เริ่มเรื่อง (แต่ในเรื่องมีอะไรเกี่ยวข้องกับไทยเยอะดีนะ) ประมาณ 15 นาทีแรกที่เปิดเรื่องก็จะเป็นฉากในไทย แถบ อโศก ย่าน คาวบอย


แต่เราได้ศัพท์ใหม่ มาจากซีน 15 นาทีในไทยนี่ด้วยนะ ดูไปเปิดดิกไป กว่าจะจบตอนแรก เหนื่อยอะ5555

เนื้อเรื่องเริ่มต้นที่อโศก ซอยคาวบอย แดนอะโกโก้บาร์ในกรุงเทพฯ พระเอกพาคนญี่ปุ่นมาชมสาว นุ่งน้อยห่มน้อย (บางทีอาจจะไม่ห่มอะไรเลย) ทั้งหลายและพูดว่า 


掘り出し物ですよ ここは。 

คำศัพท์
掘り出し物 (ほりだしもの)แปลว่า
ของดีหรือของถูกที่บังเอิญพบและซื้อหามาได้



แต่ไป มา ก็มีตำรวจบุกเข้ามาในร้าน ยิงปุ้งๆๆๆ บอกให้ทุกคนหยุด พระเอกก็พาคนญี่ปุ่นคนนั้นวิ่งหนี วิ่งไปตั้งหลักได้ก็อธิบายว่า



たまにあるんですよ。
警察の手入れが。

คำศัพท์ 
手入れ(ていれ)แปลว่า ดูแล หรือ การที่ตำรวจเข้าไปสอบสวนอาชญากรรมในที่เกิดเหตุ

เหตุที่ตำรวจต้องมา 手入れ ทีนี้ก็เพราะ พระเอกให้เหตุผลดังนี้


売春は一応
タイでも非合法だから。 

คำศัพท์
売春(ばいしゅん)แปลว่า การขายประเวณี
非合法(ひごうほう)แปลว่า ผิดกฎหมาย (ปกติรู้จักแต่คำว่า 違法)

ถ้าเป็นคำว่า  買春 (ばいしゅん)จะแปลว่า การซื้อประเวณี

ละพระเอกก็บอกว่า ที่ตำรวจมาจับเราก็เพราะ..



人気店だから狙われたのかも。
見せしめに。

คำศัพท์
見せしめ (みせしめ) แปลว่า การลงโทษให้เห็นเป็นตัวอย่าง

น่าจะตรงกับสำนวนไทยว่า เชือดไก่ให้ลิงดู นั่นเอง

นี่คือฉากที่น่าสนใจในประเทศไทยในละครญี่ปุ่นเรื่องนี้ นับว่าละครเรื่องนี้นำเสนอทั้งมุมสว่างและมุมมืดของไทยครบเลยทีเดียว แล้วฉากต่อจากที่พระเอกหนีตำรวจก็คือ.. เชิญไปติดตามกันต่อในละครได้ค่าาา


วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2560

タスク6:目に浮かぶ描写

กิจกรรมที่ทำคราวนี้เริ่มยากขึ้นมาแล้ว คือ การพรรณา หรือ 描写 เราเคยเรียนมาแล้วในวิชาคอนเวอร์ ตอนนั้นก็รู้สึกว่ายาก ตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่ายากอยู่ดี

ในห้องเราต้องบรรยาการ์ตูนช่อง ๆ 4 ช่อง มีการ์ตูนอยู่ 2 แบบ ให้จับคู่กับเพื่อนในห้องแล้วผลัดกันพรรณา

แบบแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับ คนญี่ปุ่น 2 คนที่นั่ง ๆ อยู่ คนนึงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ แล้วเห็นชาวต่างชาติเดินมา ท่าทางจะเข้ามาถามทาง คนที่ไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์เลยรีบหลบเข้าไปหลังหนังสือพิมพ์เพื่อที่จะได้ไม่ต้องคุยกับคนต่างชาติ

แบบแรก

แบบที่ 2 เป็นเรื่องของเด็กวัยหัดคลานกับหมา เด็กเห็นหมาหลับอยู่อยากขี่หมา เลยคลานไปหาหมา แต่หมาดันรู้ตัวตื่นซะก่อน เลยจะคลานไปอีกทางเพื่อเข้าข้างหลังไม่ให้หมารู้ตัว แต่หมาก็หันหน้ามาอยู่ดี กลายเป็นว่าเด็กคลานยังไงก็เจอหน้าหมา

แบบที่ 2


เราได้แบบที่ 2 ซึ่งตอนแรกดูรูปก็ไม่เข้าใจ ได้เพื่อน ๆ คนอื่นช่วยอธิบายให้ฟังเลยเข้าใจแบบงง ๆ และถอดเสียงตอนเล่าออกมาได้ดังนี้

赤ちゃん一人と犬がー匹がいます。で、あのう、犬が寝てます。そして、赤ちゃんはあのう、犬のお腹、お、お腹じゃなくて背中?犬の背中に乗りたいと思って、あのう、犬に近づいてた。そして、犬が、赤ちゃんが犬の背中に乗りたいと思って犬のところにあのう、近づいていた。で、あのう、犬は目が開けました。(目が覚める?)目が覚めました。そうそうそう。そして、赤ちゃんちょっとびっくりしちゃってもう乗れないかなと思ってそして、犬の、あのう、乗れないと思うのは犬と前から、、犬と前から、あのう、近づくなら背中に乗れないですよね。なので、なので、後ろに近づけたい、、と思って、なので、犬の前から回して、そしてもう一回近づけると、もうー回犬の前に着いた。それは、赤ちゃんは犬の後ろに、あのう、後ろの方に入りたいのに入れなかった。(何で?)というのは、あのう、赤ちゃんはなんか丸みたいな回るので、あのう、前から回ってももうー回前に戻ったという(何で?)何でかな?なんか丸じゃなくて丸の半分ぐらい行くなら犬の後ろに、あのう、着いたけど、あのう、着けるけど、あのう、犬の後ろに止まらなくて、まだ、あのう、続くので、もう一回犬の前に着いたという。(難しい)難しいね。赤ちゃんは犬の背中に乗りたいと思って、犬に近づいたね。そして、犬に着いたのは犬の前、犬の顔会った、ですよね。こういう形 (ทำท่าประกอบ) あのう、なので、背中乗れないちゃん。前から。乗れないので、あのう、もう一回犬の背中に行きたい。赤ちゃんは一回回して顔に会った。もう一回会った。背中じゃなくて。終わり。

(ในวงเล็บคือบางส่วนที่เพื่อนโต้ตอบกับเรา)

ครั้งแรกใช้เวลานานมาก ประมาณเกือบ 5 นาทีได้ เพราะคิดศัพท์ไม่ออก เช่นคำว่า คลานไปหา หรือเจอหน้าหมา เดินอ้อม เป็นต้น อธิบายให้เพื่อนเข้าใจไม่ได้สักที ใช้มือไม้เต็มที่ก็แล้ว เอาจริง ๆ ยังไม่ค่อยเข้าใจเนื้อเรื่องของการ์ตูนเลยว่าต้องการจะสื่ออะไร เรื่องนี้ให้พูดเป็นภาษาไทยยังไม่ได้5555 ก็เลยคิดว่าครั้งแรกมีปัญหาที่การเข้าใจเนื้อเรื่องกับคลังศัพท์ พูดจาสับสนวกวนไปหมด

หลังจากนั้นครูก็ให้อ่านตัวอย่างที่คนญี่ปุ่นเล่าเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนั้น ๆ ด้วย ทำให้ได้ศัพท์และสำนวนเพิ่มขึ้นมา พอเล่าเป็นครั้งที่ 2 ก็ใช้เวลาลดน้อยลงกว่าครึ่ง เหลือแค่เกือบ 2 นาที (จริง ๆ น่าจะเป็นเพราะเพื่อนที่ฟังเราก็รู้เรื่องเนื้อเรื่องทั้งหมดแล้วด้วย เล่าผิด ๆ ถูก ๆ ไปเพื่อนก็เกต)

หลังจากนั้นก็ได้ลองเล่าเรื่องที่ยังไม่ได้เล่าบ้าง โดยที่ได้เรียนรู้คำศัพท์มาแล้ว รู้สึกตัวเองเล่าได้สบายกว่าเรื่องเด็กคลาน แถมยังเข้าใจเนื้อเรื่องอีกด้วย ดีใจ

ある建物のロビーのソファーに、あのう、男性二人が座っている。一人の男性は新聞を読んでいる。そうすると、あのう、外国人があそこに近づいてる。その外国人が地図を持っているので、その座ってる二人に道を聞いたいと思う。で、あのう、あのう、ソファーに座っている一人はその外国人の目と、目が会って、やばいと思って、あのう、英語には自信がないので、英語を話したくないので、あのう、隣に座っている新聞を読んでいる人の新聞の後ろに隠れてる。外国人を見えない。見られないようにしている。なので、結局外国人が道を聞けなかった。

(จริง ๆ ต้องเป็นการถอดเสียงเปรียบเทียบระหว่างครั้งแรกและครั้งที่ 2 ของเรื่องเดียวกันแต่เราเข้าใจผิด อัดเสียงมาเป็นอีกเรื่องแทน)

ความรู้สึกที่อ่านแล้วเปรียบเทียบของคนญี่ปุ่นกับสิ่งที่ตัวเองและเพื่อนพูด เราคิดว่าเรายังเล่าได้แบบไม่มี オチ อะ ไม่เข้าใจว่าเราต้องตบมุกจบยังไง ขนาดตอนฟังของเพื่อนแล้วเพื่อนเล่าจบยังรู้สึกงง ๆ ว่า เอ่า จบแล้วหรอ แล้วมันยังไงอะ เขาเข้าไปแอบหลังหนังสือพิมพ์แล้วไงต่อ เหมือนเรื่องจะมีต่อยังไงอย่างงั้น ยิ่งของเรายิ่งแล้วใหญ่ ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเนื้อเรื่องทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ คนเล่าอย่างเรายังไม่เข้าใจเรื่องเลย5555

สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นชัดอีกอย่างคือ เราไม่ได้ใส่อารมณ์ความรู้สึกในการพรรณาเลย เช่น オノマトペ ที่จะทำให้เนื้อเรื่องมีสีสันมากขึ้น, หรือการใส่ความคิดเห็นของตนเอง เป็นต้น แต่ก็ยังมีคำแสดงอารมณ์แบบ てしまうอยู่บ้าง

内省

พอได้กิจกรรมนี้แล้ว รู้สึกเกลียดตัวเองไปเลย คิดว่าเรามีความสามารถในการเล่าเรื่องแย่มาก ๆ ตอนพูดไม่เท่าไหร่ รู้สึกเฉย ๆ พอได้มาฟังซ้ำที่ตัวเองอัดอีกรอบก็เข้าใจเลยว่าทำไมเพื่อนถึงไม่เข้าใจเรา ขนาดเรายังไม่เข้าใจสิ่งที่เรากำลังจะพูดเลย มีปัญหาด้านการเล่าเรื่องตามลำดับมานานแล้ว ชอบเล่า ๆ ในแบบที่เข้าใจเอง แต่คนฟังไม่เข้าใจอะ คิดว่านอกจากคำศัพท์ที่ต้องปรับปรุงแล้ว ยังต้องปรับปรุงตัวเองให้มีสติลำดับเรื่องราวในหัวมากกว่านี้ให้เล่าเรื่องให้คนฟังได้รู้เรื่องมากกว่านี้อีกจะดีมาก ยังติดคำว่า あのう กับ そして อีกมาก ๆ หลุดปากพูดออกมาตลอดเวลาเลย โดยเฉพาะคำว่า で、あのう ในตอนที่นึกอะไรไม่ออก

ดังนั้นคิดว่า หากเราจะปรับปรุงการเล่าเรื่องให้ดีขึ้นต่อไปต้องปรับปรุงสิ่งต่อไปนี้
1.      สะสมคลังศัพท์ไว้เยอะ ๆ โดยเฉพาะ オノマトペ ช่วยเพิ่มอรรถรสให้เรื่องเล่า
2.      ระมัดระวังเรื่องไวยากรณ์ให้มากขึ้น
3.      อาจจะใส่ความรู้สึกของเรื่อง ความคิดหรือคำพูดของตัวละครในเรื่องไปด้วย ทำให้เรื่องมีสีสันมากขึ้น
4.      จัดลำดับเนื้อเรื่องให้ดี ให้คิดจากมุมมองจากคนฟัง ไม่ใช่มองจากมุมมองเรื่องราวในหัวเราที่เราเข้าใจดีอยู่แล้ว
5.      พูดคำว่า あのう หรือ そして ให้น้อยลง

6.      ถ้าใส่ オチ ตอนจบของเรื่องไว้ด้วย จะทำให้คนฟังสนุกมากขึ้น

วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2560

タスク5:My new me:HP紹介文version

กิจกรรมทำซ้ำ ต่อมาที่ได้ทำก็คือ การเขียนแนะนำโฮมเพจหรือ HP紹介文 นั่นเอง

เราต้องเลือกแนะนำอะไรสักอย่างในจุฬา เราเลยเลือกเรื่องกิน เพราะคิดว่ามันใกล้ตัวสุด จริงจังสุด (ยิ่งกว่าเรื่องเรียน) เลยคิดว่าน่าจะเขียนง่าย (ตอนนั้นคิดงั้นนะ5555)

ตอนเขียนครั้งแรก เราพยายามเน้นไปที่แหล่งของกินที่อยู่ในจุฬา และรอบ จุฬา เลยเลือกเขียนทุกอย่างไปใน 400 ตัวอักษร ทั้งโรงอาหารในจุฬา ตลาดสามย่านและก็สยามพารากอน พยายามสร้างจุดขายให้ทั้ง 3 ที่คือ โรงอาหารก็จะถูกอร่อย ตลาดสามย่านก็อร่อยและราคายังพอรับได้ ส่วนพารากอนคือแพงแต่หรูหราและมีอาหารนานาชาติ

และโดนคอมเม้นท์ประมาณว่ายังไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังจะสื่อนะ เราก็รู้สึกว่าตัวเองเขียนเยอะไปจริง พยายามยัด เข้ามาใน 400 ตัวอักษรนี้ คงต้องตัดอะไรออกบ้าง

และหลังจากนั้น ได้ดูตัวอย่างการเขียนแนะนำมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องวิสัยทัศน์ เป้าหมายในโลกใบนี้ แนว วิชาการหน่อย เราเลยหาตัวอย่างที่เขียนเกี่ยวกับการเขียนแนะนำโรงอาหารในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น และคิดว่าถ้าเราเขียนแหล่งของกิน 3 แหล่งเลย เนื้อหาจะมากไป ที่ไม่พอเขียน เลยโฟกัสไปที่โรงอาหารจุฬาอย่างเดียว ตอนแรกก็เขียนแค่อาหารอร่อย ในจุฬา ครั้งที่ 2 เลยใส่รายละเอียดอื่น ไปด้วย เช่น การใช้คูปอง เวลาปิดเปิด โดยยังเขียนเน้นความถูกและอร่อยไว้เหมือนเดิม 

ครั้งที่ 2 ยังโดนแก้เรื่องไวยากรณ์และจุดที่เขียนแล้วดูสับสนไปบ้าง 

ครั้งที่ 3 เราเลยเรียงลำดับเนื้อความใหม่ และเขียนใหม่ได้ดังนี้

 チュラーロンコーン大学の食堂のご紹介である。大学の各学部に学食がある。学食はフードコートのように隣接する様々な飲食の店舗が共有するスペースでセルフサービスだ。各学部によって、現金ではなくクーポンカードで払うシステムが導入された学食もある。
 基本的な営業時間は6.00 – 18.00です。学部によって異なる。(一般の方は学生が最も利用する11時から13時までの時間帯を避けることにご協力ください。)
 メニューについては、価格を抑えられ、40バーツ以内で提供されている。一般的なタイ料理から麺類や軽食、デザートまで幅広いメニューが揃っている。それに、学生に人気でおいしいメニューが楽しめる。特に、おすすめなのは文学部を代表する名物のフライチキン、政治学部ならではの我慢バミーという意味の「バミーオットン」、 教育学部にある大学で一番おいしくて人気なミルクシェイクである。
 勉強以外、チュラーロンコーン大学で満喫できることの一つは食べることなので機会があったらぜひ召し上がってみてください。

และเพื่อความแน่ใจเราก็เอาไปลง lang-8 เพื่อมีคนผ่านมาแก้ให้ แล้วก็มีจริง เขาแก้ไว้หลายจุดเลย สุดท้ายแล้วกลายเป็นแบบนี้

(ส่วนที่ขีดเส้นใต้คือส่วนที่ได้รับการแก้ไขแล้ว)

 チュラーロンコーン大学の食堂紹介する。大学の各学部に学食がある。学食はフードコートのように隣接する様々な飲食の店舗が連なるスペースでセルフサービスだ。各学部によって、現金ではなくクーポンカードで払うシステムが導入されている学食もある。
 基本的な営業時間は6.00 – 18.00だ。学部によって異なる。(一般の方は学生が最も利用する11時から13時までの時間帯を避けていただきたい。)
 メニューについては、価格抑えられ、40バーツ以内で提供されている。一般的なタイ料理から麺類や軽食、デザートまで幅広いメニューが揃っている。それに、学生に人気でおいしいメニューが楽しめる。特に、おすすめなのは文学部を代表する名物のフライチキン、政治学部ならではの我慢バミーという意味の「バミーオットン」、 教育学部にある大学で一番おいしくて人気ミルクシェイクである。
 勉強以外、チュラーロンコーン大学で満喫できることの一つは食べることなので機会があったらぜひ召し上がってみていただきたい

内省

การเขียนครั้งแรกเป็นการเขียนแบบไร้แนวทางใด รู้สึกได้เลยว่าเขียนออกมาแล้วมันดูมั่ว ไร้ทิศทาง แม้เราจะพยายามเขียนออกมาขนาดไหนก็ตาม พอครั้งที่ 2 เริ่มหาแนวทางเป็นของตัวเองได้แล้ว (จริง ควรหาได้ตั้งแต่ครั้งแรกนะ555) เลยคิดว่าเนื้อหาที่เขียนออกมาเข้าที่เข้าทางแล้ว เขียนถึงโรงอาหารจุฬาอย่างเดียวไปเลย แล้วลงลึกในเนื้อหาอื่น ด้วย แต่ยังผิดไวยากรณ์อยู่หน่อย จนครั้งสุดท้ายเปลี่ยนโครงสร้างการเขียนใหม่ ย้ายเอาเรื่องเวลามาไว้ย่อหน้าที่ 2 (ตอนแรกไว้ย่อหน้าสุดท้าย) แก้ไวยากรณ์ที่ผิดและส่วนที่เป็นปัญหา ก่อนจะเอาไปลงใน lang-8 เผื่อไว้เป็นครั้งสุดท้าย

คิดว่าครั้งสุดท้ายตัวเองเขียนดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับครั้งแรกที่ไร้ทิศทาง มีสิ่งที่ต้องการจะสื่อชัดเจน เนื้อหาเป้นไปในทางทิศเดียวกันตามลำดับที่ตัวเองคิดว่าโอเค555 แล้วพอให้คนญี่ปุ่นใน lang-8 แก้ให้ก็ได้รู้จักคำใหม่ ด้วย เช่น 連なる แทนคำว่า 共有する เราว่า 連なる สื่อความหมายให้เห็นชัดกว่าด้วยว่าเป็นร้านที่เรียงต่อ กัน ดีใจที่คนแก้ให้เขาเข้าใจเราว่าอยากพูดถึงอะไรและแก้ได้ตรงใจมาก และที่ประหลาดใจสุดคือคำว่า いただきたい เพราะตอนแรกใช้คำว่า ください เหมือนกับมีบุรุษที่ 2 อยู่ แต่พอรู้ว่าใช้คำว่า いただきたい ได้นี่เหมือนบุรุษที่ 2 หายไป ดูเป็นเนื้อหาบนโฮมเพจมากขึ้น


สรุปว่า การเขียนงานถ้าอยากเขียนให้ออกมาดีควรให้คนติชมเยอะ และแก้ไขเรื่อย  

タスク4:一生使える見やすい資料のデザイン入門

เมื่อเราได้ทำกิจกรรมการออกแบบ Power Point แนะนำสิ่งต่าง ในจุฬา ครูเลยให้หนังสือเล่มนี้มาอ่าน  一生使える見やすい資料のデザイン入門 ของคุณ 森重湧太 คุณนักเขียนคนนี้ยังหนุ่มอยู่เลย ได้สัมภาษณ์ลงนี้ด้วย  (ยังไม่ได้อ่านเลย แปะไว้เฉย ๆ555)


一生使える見やすい資料のデザイン入門 เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับทริคในการออกแบบงาน Power Point ให้น่าสนใจ ให้ผู้อ่านอ่านแล้วเข้าใจง่ายที่สุด ผู้อ่านอ่านแล้วเข้าใจได้ทันที

เนื้อหาก็ครอบคลุมทุกอย่างไปตั้งแต่เนื้อหาที่ต้องใส่ ตัวอักษร หรือสีที่ควรใช้ในสไลด์เป็นต้น

สิ่งสำคัญที่ปกติควรรู้อยู่แล้วแต่ไม่ได้ทำตามคือ 1 slide = 1 massage และการเขียนให้สั้น กระชับ เข้าใจง่ายที่สุด (Keep it short and simple) เราคิดว่านี่เป็นหัวใจสำคัญของการทำงานนำเสนอเลย ถ้าเราเขียนสั้น กระชับและเข้าใจได้ทันทีในสไลด์เดียวจะทำให้ผู้อ่านสนใจเนื้อหาเราได้ แต่ปกติเราก็ชอบอัด เนื้อหาที่มีตัวหนังสือเยอะ ไป คนเห็นก็ไม่อยากอ่านแล้ว ยกเว้นว่ามันจำเป็นต้องอ่านจริง พอหนังสือเล่มนี้เน้นประเด็นนี้มาก เราก็เข้าใจความสำคัญของมันเลย แก้สไลด์ใหม่ทั้งหมด5555

ต่อมาพวกตัวอักษรอะไรต่าง เคยเรียนมาแล้วว่าในสไลด์ควรใช้ตัวอักษรแบบไหน แต่เรื่องสีตัวอักษรไม่เคยให้ความสำคัญกับมันก็ก่อน ปกติก็ใช้ประมาณสี 2 สี แต่หนังสือเล่มนี้ให้แบ่งเป็น 3 สีหลัก เลย ได้แก่ 1. สีพื้นฐาน 2. สีหลัก ใช้ในส่วนที่เป็นหัวข้อและที่ต้องการเน้น 3. สีที่ให้ความสำคัญ ใช้ตอนที่อยากให้คนสนใจจุดใดจุดนึงเป็นพิเศษ ใช้เพียงแค่ 3 สีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้หลาย สี และมีหลักการเลือกสีมาให้ด้วยตามนี้ มีประโยชน์มากเลย 


นอกจากนี้ยังมีการใช้หลักการใช้ตัวอักษรอื่น อีก เช่น การขีดเส้นใต้ การใช้ตัวหนา การเน้นคำ ต่าง เป็นต้น

และยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับการใส่รูปภาพ กราฟ แผนภูมิต่าง อีกด้วย ถ้าต้องทำงานนำเสนอที่ต้องใช้สิ่งเหล่านี้สามารถนำมาใช้อ้างอิงได้


สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจคือ เขาสอนว่า ควรใส่ฟ้อนท์ภาษาอังกฤษของคำที่เขียนด้วยตัวอังกฤษ ไม่ควรใช้ของญี่ปุ่น มันจะทำให้ดูสวยกว่า แต่เราชอบฟ้อนท์อังกฤษของญี่ปุ่นนะ เราคิดเองเออเองว่ามันดูเรียบร้อยกว่าอะ5555